วิเคราะห์การแลก DOG ของวิตาลิก

ตัวเลขไม่โกหก

2 พันล้านล้านโทเค็น DOG. 4.43 ETH. มูลค่าประมาณ $10,800.

นี่คือสิ่งที่ PeckShieldAlert บันทึกจากกระเป๋าเงินของวิตาลิก บูเทอรีน—ไม่มีเสียงดัง ก็แค่การแลกเปลี่ยนบน DEX โดยไม่มีคำประกาศใดๆ

ในโลกที่เหรียญมีมพุ่งสูงขึ้นเป็นพันล้านในชั่วข้ามคืน การกระทำแบบเงียบๆ เช่นนี้ดูเหมือนจะไร้รสชาติ

แต่นั่นแหละ…จึงสำคัญที่สุด

การกระทำครั้งนี้ไม่ใช่แค่ธุรกรรมเดียว

ขอชัดเจนไว้ก่อน: ผมไม่มากำหนดให้วิตาลิกกลายเป็นตำนาน แต่เมื่อผู้มีอิทธิพลอย่างเขาถ่ายทอดโทเค็นจำนวนมากหลายพันล้านชิ้น—ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายแสนหรือหลายล้านดอลลาร์—แต่วางเงินกลับมาเพียงเล็กน้อยกว่า5 ETH คำถามเดียวที่เกิดขึ้นมานั้นคือ: อำนาจเลือกความเงียบได้อย่างไร?

เรื่องนี้ไม่ใช่อารมณ์หรือผลกำไร—แต่มันเกี่ยวกับหลักการ

เศรษฐศาสตร์ที่มองไม่เห็นของความไว้วางใจ

คนส่วนใหญ่มักขายในจุดยอดของกระแสฮิต เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด และขยายตำแหน่งลงในตลาด

แต่มีบางอย่างที่คนแทบทุกคนมองข้าม: การเคลื่อนไหวของโทเค็นแตะหนึ่งครั้ง จะเหลือรอยทางดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา — เป็นหลักฐานแห่งเจตนา

การแปลงปริมาณมหาศาลเป็น ETH เพียงเล็ก ๆ ในกรณีของวิตาลิก แสดงถึงการถอนตัวออกจากแรงโน้มถ่วงของการลงทุนตามอารมณ์ (speculative gravity)

ไม่ใช่อภิปราย — มันคือการปล่อยวาง

และจุดแตกต่างระหว่างสองอย่าง? เรานำเสนอแนวคิดเรื่องความกระจายอำนาจแท้จริง—not in ownership, but in relinquishment.

Web3 เผลอลืมรากเหง้าอีกครั้ง

เราจมน้ำอยู่กับคำบรรยายเรื่อง ‘ประชาธิปไตย’ และ ‘การครอบครอง’ จริงๆแล้ว สภาพแวดล้อมตรงข้ามนี้ซับซ้อนกว่านั้นมาก: การครอบครองอย่างแท้จริงหมายถึง การไม่มีมากเกินไป — ในแง่อิทธิพล, สินทรัพย์, และอำนาจควบคุม

ผมเคยสร้างโมเดลดูพฤติกรรมขณะตลาดตกเลวร้าย เมื่อดูจากภาพรวม เราพบว่าปัญหาตอนนี้ไมใช่อารมณ์หวาดกลัว — มันคือภาวะหมดไฟ ชุมชนเหน็ดเหนื่อยจากโครงการที่พูดถึงเสรีภาพแต่วางระบบให้มีศูนย์กลางมากขึ้นครับ วิตาลิกทำสิ่งแปลกใหม่วันนี้: เขาไม่ได้ออกมาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย เขาไม่นำเสนอ NFT เขาไม่มองตนเองเป็น ‘ฮีโร่นำทางโซเชียลมอนเนอร์’ เขามองแค่ว่าโอนทราน잭ชัน และหายเข้าไปในระดับโปรโตคอลอีกครั้ง ความเงียบนี้? มันบอกมากกว่าเอกสารขาวใดๆ ก็ตามได้ง่ายๆ

การบริหารโดยการแสดงออกแทนคำพูด?

n การทำงานในการกำหนดแนวทางบริหารโดยปกตินำมาซึ่งประเด็นเรื่องสัญญาณลงคะแนนเสียงและการประชุม DAO — หากนำแนวคิดใหม่นี้มาพินัยกรรม: การนำอำนาจไปไว้น้ำตาลอ่อนอาจเปลี่ยนมุมมองได้อย่างไร?

เวลานี้ เมื่อมวลชนสามารถขายกองเหรียญของเขาเองได้อย่างสบายใจโดยปราศจากอาการสะอึก — ก็เป็นเวลาสำหรับพวกเขาจะได้มอบความไว้วางใจเหนือกฎโปรแกรมหรือกฎสม多数เฉพาะทาง r r r r r r r r r r r พอนึกถึงผู้สร้างหลายๆ คนเหล่านี้กำลังเก็บเหรียญโปรเจกต์ของตนเองไว้อยู่ในสภาพคล่องแบบไร้ขอบเขตหลังจากการปล่อยออกมาเลยแม้นายจะบอกว่า ‘ฉันอยากกระจายอำนาจ’

ผมรู้สึกขำภายในใจ เพราะไอโรเนียนั้นมันโดนจริงๆ 
หาก decentralization มีความหมายอะไรบางอย่างจริง ๆ 
มันควรจะหมายถึง “ปล่อยวาง” โดยแม้อาจจะสามารถหยุดไว้อะไรบางอย่างได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกับใครหลายคน